ในปี 2012 ได้มีกระแสของเกมหนึ่งเกิดขึ้นมาบนโลกอินเทอร์เน็ต เกมนั้นมีการกล่าวถึงเจ้ายักษ์ตัวสีม่วงหน้าตาประหลาดที่อาจทำให้รู้สึกขบขันเมื่อแรกเห็น แต่พอได้ลองสัมผัสกับมันภายในเกมแล้ว เราก็ได้พบว่าเจ้ายักษ์จากเกม “ Ao Oni ” นี้…มีความน่าสะพรึงกลัวมากกว่าที่คิด
อะไรคือเกม “Ao Oni” ?
เกม Ao Oni หรือที่เรียกกันติด “ เบะม่วง ” เกมแนว Survival horror แบบ Free to play ที่เราจะได้รับบทเป็น ฮิโรชิ เพื่อไปสำรวจคฤหาสน์กับเพื่อนอีก 3 คน จนสุท้ายได้พลัดหลงกับกลุ่มเพื่อน ๆ และทางเข้าคฤหาสน์ได้ถูกปิดตายไป จนได้เจอยักษ์สีฟ้าที่วิ่งไล่ล่าเขาไปทั่วคฤหาสน์ ทางเดียวที่จะรอดชีวิตได้ คือ “หาทางออกให้เจอ”
Ao Oni ในเวอร์ชันต่าง ๆ
หากไม่นับ Ao Oni 2 และ Ao Oni 3 ที่ฉากหลังไม่ใช่ภายในตัวคฤหาสน์แล้ว ตัวเกมจะมีเวอร์ชันหลัก ๆ ทั้งหมด 4 เวอร์ชันด้วยกัน ได้แก่
เวอร์ชัน 1.1
เวอร์ชัน 1.1 เป็นเวอร์ชันแรกสุดของเกมนี้ เปิดตัวในปี 2007 ตัวเกมวางจำหน่ายแบบภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น เรื่องจะเริ่มต้นในระหว่างการกลับบ้านของ ฮิโรชิ และ คาซุยะ พวกเขาบังเอิญไปชนเข้ากับทาคุโร่และกลุ่มเพื่อนซึ่งได้แก่ ทาเคชิ เมกุมิ และเรียวตะ จากนั้นทาคุโร่ก็ได้บังคับให้ฮิโรชิและคาซุยะเดินทางไปที่คฤหาสน์พร้อมกับพวกเขา
เวอร์ชัน 3.0
เวอร์ชัน 3.0 เป็นเวอร์ชันถัดจากเวอร์ชัน 1.1 เปิดตัวในปี 2009 เรื่องจะเริ่มต้นจากชายแก่คนหนึ่งพยายามจะเปิดประตูหนีออกจากคฤหาสน์ โดยที่ไม่รู้ว่าด้านหลังมีเจ้ายักษ์สีฟ้ากำลังพุ่งเข้ามาโจมตี แล้วจากนั้นฉากก็ตัดไปที่ฮิโรชิและพวกพ้องที่เดินทางมายังคฤหาสน์ในเวลาต่อมา
ในเวอร์ชันนี้ จะทำการตัดบทของคาซุยะและเรียวตะออกไป ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของฮิโรชิให้มีความคล้ายคลึงกับเรียวตะ เปลี่ยนชื่อของเมกุมิเป็น มิกะ เพิ่มรูปภาพหน้าตาของตัวละครที่กรอบบทสนทนา เพิ่มรูปแบบของเหล่ายักษ์ เพิ่มปริศนา และปรับเปลี่ยนฉากกับเนื้อเรื่องมากพอสมควร
เวอร์ชัน 5.2
เวอร์ชัน 5.2 เป็นเวอร์ชันถัดจากเวอร์ชัน 4.2 (ตัวเกมแบบสมบูรณ์ของเวอร์ชัน 3.0) เปิดตัวในปี 2009 คราวนี้ตัวเกมเริ่มต้นจากตรงที่ฮิโรชิและพวกพ้องเดินทางมาถึงคฤหาสน์เลยทันที เป็นเวอร์ชันแรกที่มีการวางจำหน่ายในแบบภาษาอังกฤษ
ในเวอร์ชันนี้ ตัวเกมได้ทำการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่อง ยักษ์ กับฉากภายในเกมอีกครั้ง เพิ่มเติมบทสนทนาของตัวละครไร้นาม 3 คน และตัวเกมมีฉากจบทั้งหมด 2 แบบ
เวอร์ชัน 6.23
เวอร์ชัน 6.23 เป็นเวอร์ชันล่าสุดของเกม Ao Oni และยังเป็นเวอร์ชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เปิดตัวในปี 2011 มีการวางจำหน่ายแบบเป็นทางการในภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ และอิตาลี แต่ด้วยความนิยมของตัวเกมทำให้มีการแปลเพิ่มจากเหล่าแฟน ๆ ไปอีกหลายภาษาซึ่งรวมไปถึงภาษาไทย
ในเวอร์ชันนี้ ตัวเกมได้ทำการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องกับรูปแบบของยักษ์อีกครั้ง ตัดฉากจบให้เหลือเพียงแบบเดียว ตัดบทตัวละครไร้นามทั้ง 3 คนออกไป ปรับเปลี่ยนรูปแบบของภาพในกรอบบทสนทนา เพิ่มเติมพื้นที่ส่วนอาคารเก่า สามารถเปลี่ยนชื่อของฮิโรชิได้ตามใจอยาก และทำการเพิ่ม Cheat Codes เข้ามาในตัวเกม
สำหรับ Cheat Codes จะไว้ใช้ในตอนเลือกชื่อของฮิโรชิ หากเราเปลี่ยนชื่อให้เป็นชื่อโค้ด ตัวเกมก็จะทำการปรับเปลี่ยนบางส่วนตามโค้ดนั้น ๆ เช่น หากกรอกคำว่า SOUTHPARK รูปลักษณ์ตัวละครและเนื้อเรื่องจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในสไตล์ของการ์ตูนเรื่อง South park หรือถ้ากรอกคำว่า GODMODE เราจะไม่มีทาง Game Over เพราะเจ้ายักษ์ทำอะไรเราไม่ได้
เกม Ao Oni เป็นที่นิยมมากจนทำให้เกิดเกมแบบ Fan Made ตามมาอีกมากมาย ทั้งในรูปแบบ 2D และ3D ตัวละครในเรื่องโดยเฉพาะเจ้ายักษ์ก็มีการนำไป Mod ใส่เกมอื่นกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ความโด่งดังของตัวเกมก็ได้ทำให้มีการนำเรื่องราวภายในเกมไปสร้างเป็นสื่อรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย